วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561

กำหนดแบบแผนจากปัญหาย่อยต่างๆ(Pattern Recognition)

กำหนดแบบแผนจากปัญหาย่อยต่างๆ(Pattern Recognition) คือการมองหารูปแบบของปัญหา หรือสถานการณ์ (pattern) ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ หรือรูปแบบของปัญหาที่เหมือนกัน จากปัญหาย่อยที่ได้จากขั้นตอน Decompsition เช่น ในการเขียนประโยคภาษาอังกฤษต่างๆ นั้นแบบแผนในการเขียนสามารถกำหนดได้ ดังนี้
-ประโยคนี้ใช้ Tense อะไร                  -ประธานของประโยคคืออะไร
-ประโยคนี้มีกิริยา (Verb) เป็นอะไร    -ประโยคนี้มีกรรมหรือไม่ (กรรมของประโยคคืออะไร)
1.กำหนดรูปแบบการพัฒนาเว็บไซต์ที่สามารถแสดงผลบนอุปกรณ์ที่แตกต่างกันเป็นแบบresponsive web site คือ การพัฒนาเว็บไซต์ขึ้นมาเพียงครั้งเดียว
2. กำหนดฟังก์ชันการทำงานให้มีรูปแบบการเรียกดูข้อมูลต่างๆ จากหน้าเว็บไซต์แบ่งเป็น 2 ประเภท
-การเรียกดูข้อมูลในลักษณะของ static web
-การเรียกดูข้อมูลในลักษณะของ dynamic web
3. กำหนดรูปแบบการจัดเก็บข้อมูล โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบดังนี้
-การจัดเก็บข้อมูลโดยการผนวกข้อมูลต่างๆ
-การจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของฐานข้อมูลโดยจะเป็นการแยกส่วนของการจัดเก็บข้อมูล 
4. กำหนดเครื่องมือที่ใช้
-เลือกใช้ภาษาโปรแกรมที่เหมาะสม
-ซอฟต์แวร์ที่ใช้เป็นการเลือกใช้ซอฟต์แวร์แยกตามประเภทงาน

การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา (Decomposition)

การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา (Decomposition)


การแยกส่วนประกอบอาจเป็นขั้นตอนแรกของการพัฒนานวัตกรรม เนื่องจากทำให้เห็นหน้าที่การทำงานของแต่ละส่วนประกอบย่อยอย่างชัดเจน เมื่อพิจารณาส่วนประกอบย่อยต่างๆ ในแบบที่เป็นอิสระต่อกันแล้ว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทอื่นๆได้


การแบ่งส่วนประกอบของวัตถุนั้น สามารถพิจารณาให้ละเอียดย่อยลงไปอีกได้อีกหลายระดับ แต่ไม่ควรแยกย่อยรายละเอียดให้มากเกินความจำเป็น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทที่ต้องการและสนใจ

การแยกส่วนประกอบอาจเป็นขั้นตอนแรกของการพัฒนานวัตกรรม เนื่องจากทำให้เห็นหน้าที่การทำงานของแต่ละส่วนประกอบย่อยอย่างชัดเจน เมื่อพิจารณาส่วนประกอบย่อยต่างๆ ในแบบที่เป็นอิสระต่อกันแล้ว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทอื่นๆได้



การแยกส่วนประกอบนั้น ไม่ได้ทำเฉพาะกับวัตถุหรือสิ่งของเท่านั้น แต่ยังสามารถทำได้กับกระบวนการและขั้นตอนวิธีด้วย เช่น การเดินทางมาโรงเรียน อาจเดินทางด้วยการเดินเท้า การเดินทางด้วยรถจักรยาน หรือการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์


การแยกส่วนประกอบนั้น ไม่ได้ทำเฉพาะกับวัตถุหรือสิ่งของเท่านั้น แต่ยังสามารถทำได้กับกระบวนการและขั้นตอนวิธีด้วย เช่น การเดินทางมาโรงเรียน อาจเดินทางด้วยการเดินเท้า การเดินทางด้วยรถจักรยาน หรือการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์


การหารูปแบบ (Pattern recognition)

การหารูปแบบ เป็นทักษะการหาความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง แนวโน้ม และลักษณะทั่วไปของสิ่งต่างๆ โดยทั่วไปแล้วควรจะเริ่มพิจารณาปัญหาหรือสิ่งที่สนใจ จากนั้นอาจใช้ทักษะการแยกส่วนประกอบทำให้ได้องค์ประกอบภายในอื่นๆ แล้วจึงใช้ทักษะการหารูปแบบเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างองค์ประกอบเหล่านั้น

การหารูปแบบอีกประเภทหนึ่ง เป็นการหารูปแบบที่เหมือนและแตกต่างกันระหว่างสิ่งของต่างๆ ที่สนใจหลายชิ้น การพิจารณารูปแบบนี้จะช่วยระบุองค์ประกอบสำคัญร่วมกันของสิ่งของเหล่านั้นได้ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการสร้างความเข้าใจเชิงนามธรรม เช่น เมาส์ จะเห็นว่าเมาส์นั้นมีรูปลักษณ์ภายนอกที่แตกต่างกันออกไป แต่สังเกตได้ว่ารูปแบบการใช้งานนั้นเหมือนกัน คือ สามารถบังคับตำแหน่งตัวชี้ได้โดยการขยับเมาส์ และใช้กดหรือสัมผัสบนปุ่มเมาส์เพื่อกระทำการสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามที่โปรแกรมไว้

กรณีศึกษาที่ 1 โครงงานพัฒนาเว็บไซต์เเนะนำการใช้ห้องสมุด


 เเนวคิดเชิงคำนวณเป็นกระบวนการคิดที่ต้องใช้ทักษะและเทคนิคเพื่อแก้ไขปัญหาแบบมีลำดับขั้นตอน เเละเป็นระบบ เพื่อสามารถลำดับขั้นตอนในการแก้ปัญหาในเชิงนามธรรมได้

1.1การประยุกต์แนวคิดเชิงคำนวณีเพื่่อแก้ปัญหา
     โรงเรียนแห่งหนึ่งต้องพัฒนาเว็บไซต์แนะนำการใช้งานห้องสมุดของโรงเรียน โดยมี
ความต้องการของระบบเบื้องต้น ดังนี้
  1. โรงเรียนต้องการให้พัฒนาเว็บไซต์แนะนำการใช้งานห้องสมุดในลักษณฅะเว็บแอปพลิเคชัน
และรองรับการทำงานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ตโฟนหรือแท็บแล็ต เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้งาน
สามารถเรียกใช้งานเว็บไซต์นี้ได้ตลอดเวลา และปรับเปลี่ยนการแสดงผลให้เป็นไปตามอุปกรณ์ที่
ใช้งาน

   2. เว็บไซต์นี้ต้องแนะนำการใช้งานห้องสมุดโดยครอบคลุมหัวข้อ ดังนี้
            แนะนำกฎระเบียบต่าง ๆ ในการใช้งานห้องสมุด
            แนะนำขั้นตอนการยืม - คืนหนังสือ และสื่อการเรียนรู้อื่น ๆ
            แนะนำขั้นตอนการสืบค้นหาหนังสือ
            แนะนำวิธีการใช้งานสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ในห้องสมุด
            แนะนำจุดที่ตั้งชั้นวางหนังสือประเภทต่าง ๆ ในห้องสมุด
            แนะนำการสืบค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอก
            แสดงข่าวประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ของห้องสมุด
            สามารถสืบค้นหนังสือในห้องสมุดได้
            ผู้ใช้งาน คือ อาจารย์ นักเรียน และบุคลากรภายในโรงเรียน

   3. จัดเก็บข้อมูลในลักษณะฐานข้อมูล
1.แตกปัญหาใหญ่ให้เป็นปัญหาย่อย(Decomposition) ที่มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สามารถจัดการปัญหาได้ง่ายขึ้น จากรายละเอียดและความต้องการเบื่องต้น ปัญหาใหญ่ คือการพัฒนาเว็บไซต์แนะนำการใช้งานห้องสมุด โดยสามารถแยะแยะปัญหาออกเปฝ้นประเด็นย่อยต่างๆได้ ดังนี้
1. เว็บไซต์นี้จะแสดงผลรองรับการทำงานบนอุปกรณ์ใดบ้าง
-การทำงานรองรับบนอุปกรณ์ใดบ้าง
2. เว็บไซต์มีฟังก์ชันการทำงานใดบ้าง
-แนะนำกฎระเบียบต่างๆในการใช้งานห้องสมุดได้อย่างไร
-แนะนำขั้นตอนการยืม-คืนหนังสือ และสื่อการเรียนรู้อื่นๆได้อย่างไร
-แนะนำขั้นตอนการสืบค้นหนังสือได้อย่างไร
3.เว็บไซต์จะมีการจัดเก็บข้อมูลอย่างไร
-การจัดเก็บข้อมูลในเว็บไซต์จะอยู่ในรูปแบบใด

4.เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาใช้ภาษาอะไรบ้าง-ภาษาโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาใช้ภาษาอะไรบ้าง
-ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนามีอะไรบ้าง
5.ระยะเวลา และแผนงานเป็นอย่างไร

6.จำนวนคนที่ใช้ในการพัฒนาประกอบด้วยบุคคลใดบ้าง

7.ตัวเว็บไซต์แนะนำการใช้ห้องสมุด จะมาจารการแก้ปํญหาการแสดงผล ฟังก์ชันงาน การจัดเก็บข้อมูล ระยะเวลา